พุยพุย

หน่วยที่2

หน่วยที่ 2 ระบบเทศโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
การ ทำงานใดๆ ให้ประสบผลสำเร็จบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นย่อมเกิดจากพื้นฐาน วิธีการที่มีลำดับและขั้นตอนชัดเจนสามารถปฏิบัติซ้ำๆได้หลายครั้งอย่างถูก ต้องและสมเหตุสมผลทุกครั้งไป เราเรียกกระบวนและขั้นตอนนั้นว่า “ระบบ”
ระบบ  หมายถึง  การทำงานขององค์ประกอบต่างๆ อย่างอิสระแต่มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันจนกลายเป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ของแต่ละงาน สามารถตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขได้ทุกขั้นตอน ระบบจึงเป็นหัวใจสำคัญของงานหรือการดำเนินงานทุกประเภท
วิธีการเชิงระบบ  วิธีเชิงระบบหรือวิธีระบบคือคำๆเดียวกัน เป็นกระบวนการคิดหรือการทำงานอย่างมีแบบแผนชัดเจนในการนำเนื้อหาความรู้ด้านต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นวิธีการหรือผลผลิตมาประยุกต์ใช้อย่างเป็นขั้นตอน
องค์ประกอบของวิธีระบบ
วิธีระบบมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ  ได้แก่
1.ปัจจัยนำเข้า  หมายถึง  วัตถุสิ่งของต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์ สถานการณ์ วัตถุประสงค์ ปัญหา ความต้องการ ข้อกำหนด กฎเกณฑ์ อันเป็นต้นเหตุของประเด็นปัญหา
2.กระบวน  หมายถึง  วิธีการ ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน กาสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาและปัจจัยนำเข้าให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือความต้องการ
3.ผลลัพธ์  หมายถึง  ผลงานที่ได้จากกระบวนการจัดการวัตถุดิบหรือปัจจัยนำเข้า ผลงานที่ได้รับอาจจะเป็นวิธีการหรือชิ้นงานก็ได้ ซึ่งสามารถประเมินผลแลละตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับได้
2.  ระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ  คือ  การประมวลผลข้อมูล
ข่าวสารอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นกระบวนการ
เพื่อให้ข้อมูลในรูปของข่าวสารที่เป็นประโยชน์
สูงสุด และเป็นข้อสรุปที่สามารถนำไปใช้
สนับสนุนการบริหาร และการตัดสินใจ ทั้งใน
ระดับปฏิบัติการ ระดับกลาง และระดับสูง ระบบ
สารสนเทศ จึงเป็นระบบที่จัดตั้งขึ้น  เพื่อปฏิบัติ
การเกี่ยวกับข้อมูล ดังต่อไปนี้
1.รวบรวมข้อมูลทั้งภายใน  ภายนอก ที่จำเป็นต่อหน่วยงาน
2.จัดกระทำเกี่ยวกับข้อมูลเพื่อให้เป็นสารสนเทศที่พร้อมจะใช้ประโยชน์ได้
3.จัดให้มีระบบเก็บเป็นหมวดหมู่ เพื่อสะดวกต่อการค้นหาและนำไปใช้
4.มีการปรับปรุงข้อมูลเสมอเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันตลอดเวลา
3.  องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
การจำแนกองค์ประกอบระบบสารสนเทศมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับเกณฑ์หรือวัตถุประสงค์ของแต่ละงาน  ในที่นี้จำแนกเป็น  2  ประเภท  ได้แก่ องค์ประกอบหลัก และองค์ประกอบด้านต่างๆ
3.1  องค์ประกอบหลักของสารสนเทศ
องค์ประกอบหลักของระบบสารสนเทศมีองค์ประกอบหลัก  2  ส่วน ได้แก่  ระบบความคิด  และระบบของเครื่องมือ
        ระบบความคิด  หมายถึง  กระบวนการและขั้นตอนในการจัดลำดับ จำแนก แจกแจง และจัดหมวดหมู่ ข้อมูลต่างๆ
        ระบบเครื่องมือ  หมายถึง  วัสดุอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่นำมาใช้ในการรวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่ สารสนเทศให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3.2  องค์ประกอบด้านต่างๆ ของระบบสารสนเทศ
       เนื่องจากสารสนเทศ  เป็นวิธีการหรือกระบวนการในการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานต่าง ๆ ดังนั้นองค์ประกอบสารสนเทศของงานแต่ละด้านจึงแตกต่างกัน  ดังนี้
3.2.1  องค์ประกอบของสารสนเทศด้านจุดมุ่งหมาย
ในการแก้ปัญหา  มี  4  ประการ  ได้แก่  ข้อมูล ( Data)   สารสนเทศ (Information) ความรู้ (Knowledge) ปัญญา(Wisdom) ที่ช่วยแก้ปัญหาในการดำเนินการ
3.2.2  องค์ประกอบของสารสนเทศด้านขั้นตอน
ในการดำเนินงานมี 3 ประการ คือ  ข้อมูลนำเข้า  กระบวนการ  และผลลัพธ์    การทำงานจะเริ่มต้นแต่การเปลี่ยนข้อมูลดิบที่เข้ามาสู่ การคำนวณประมวลผลหรือการกลั่นกรองจนได้ชิ้นงานหรือผลลัพธ์  และจัดเก็บเพื่อนำออกมาเผยแพร่ในลักษณะของสารสนเทศต่อไป
3.2.3  องค์ประกอบของสารสนเทศในหน่วยงาน
ได้แก่ บุคคลหรือองค์กร  เทคโนโลยี ข้อมูล และระบบสารสนเทศ
3.2.4  องค์ประกอบระบบสารสนเทศทั่วไป
ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบดังนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสื่อสารข้อมูล  ข้อมูล  สารสนเทศ  โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์  บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์
4.  ขั้นตอนการจัดระบบสารสนเทศ
การ จัดระบบสารสนเทศเป็นการกำหนดขั้นตอนการดำเนินงานและการแก้ปัญหาเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพของงานสารสนเทศ  โดยการรวบรวมและวิเคราะห์ปัญหา  ข้อมูล  วิธีการ  ทรัพยากร  เพื่อแก้ปัญหาและประเมินผลลัพธ์ที่ได้ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น  ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่  1  การวิเคราะห์ระบบ
วิธีการวิเคราะห์ระบบสารสนเทศ  แบ่งออกเป็น  4  หน่วยย่อยคือ
    1.  วิธีวิเคราะห์แนวทางการปฏิบัติงาน
    2.  วิเคราะห์หน้าที่
    3.  วิเคราะห์งาน
    4.  วิเคราะห์วิธีการและสื่อ
ขั้นที่ 2 การสังเคราะห์ระบบ
วิธีการสังเคราะห์ระบบช่วยเกลี่ยน้ำหนักเนื้อหาหรือภาระงานของขั้นตอนต่างๆ ให้มีความสมดุลในการแก้ปัญหาซึ่งมีขั้นตอนย่อยดังนี้
        1.  การเลือกวิธีการหรือกลวิธี
        2.  ดำเนินการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
        3.  ประเมินผลประสิทธิภาพการดำเนินงาน
ขั้นตอนที่ 3 การสร้างแบบจำลอง
แบบจำลองเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดออกมาเป็นภาพที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็นภาพลายเส้น หรือรูปสามมิติ แบบจำลองระบบทำให้เข้าใจโครงสร้าง องค์ประกอบ และขั้นตอนในการดำเนินงาน สามารถ ตรวจสอบหรือทำนายผลที่จะเกิดขึ้นก่อนที่จะนำระบบไปใช้จริง
5.  ประเภทของระบบสารสนเทศ
       การจำแนกสารสนเทศตามจำนวนคนที่เกี่ยวข้องในองค์กร  แบ่งได้ 3 ระดับ  คือ  ระบบสารสนเทศ  ระดับบุคคล  ระบบสารสนเทศระดับกลุ่ม และระบบสารสนเทศระดับองค์กร
     1.  ระบบสารสนเทศระดับบุคคล  คือ  ระบบที่เสริมประสิทธิภาพและเพิ่มผลงานให้แต่ละบุคคลในหน้าที่รับผิดชอบ
2. ระบบสารสนเทศระดับกลุ่ม  คือ  ระบบสารสนเทศที่ช่วยเสริมการทำงานของกลุ่มบุคคลที่มีเป้าหมายการทำงานร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
      3. ระบบสารสนเทศระดับองค์กร  คือ  ระบบสารสนเทศที่สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรในภาพรวม
6.1  ข้อมูล  (data)
       ข้อมูล  หมายถึง  ข้อเท็จจริงที่ปรากฏให้เห็นเป็นประจักษ์สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าทั้งที่สามารถนับได้และนับไม่ได้ มีคุณลักษณะเป็นวัตถุสิ่งของ เหตุการณ์หรือสถานการณ์ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น  ตามข้อมูลที่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มีหลายระดับตั้งแต่ข้อมูลเบื้องต้นหรือข้อมูลดิบจนถึงข้อมูลสสารสนเทศ ซึ่งแต่ละอย่างมีความหมายดังนี้
ข้อมูลดิบ  หมายถึง  วัตถุสิ่งของ เหตุการณ์ สถานการณ์ ที่มีคุณลักษณะหรือคุณสมบัติอยู่ในสภาพเดิม มีความอิสระเป็นเอกเทศในตัวมันเองยังไม่ผ่านการกลั่นกรอง ไม่ได้ถูกนำไปแปรรูป หรือประยุกต์ใช้กับงานใดๆ
6.2  สารสนเทศ  (Informational)
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรองโดยการจำแนกแจกแจง จัดหมวดหมู่ การคำนวณ และประมวลผลแล้ว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปได้  สารสนเทศที่ประกอบด้วยเนื้อหาสาระพื้นฐานทั่วไปอาจกลายเป็นข้อมูลสำหรับงานสารสนเทศขนาดใหญ่ที่มีความสลับซับซ้อนก็ได้
6.2.1  คุณสมบัติของข้อมูลสารสนเทศที่ดี
     ข้อมูลสารสนเทศที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.ความถูกต้อง
2.ทันเวลา
3.สอดคล้อง
4.สามารถตรวจสอบได้
5.มีความสมบูรณ์ครบถ้วน
6.2.2  ชนิดของข้อมูล
     ข้อมูลมีหลายชนิดขึ้นอยู่กับเกณฑ์ในการจำแนก  ในที่นี้จำแนกข้อมูลตามลักษณะการจัดเก็บซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ
    1.ข้อมูลที่เป็นตัวเลข
2.ข้อมูลที่เป็นตัวอักขระ
3.ข้อมูลที่เป็นตัวอักษรเลข
4.ข้อมูลมัลติมีเดีย
6.3  ความรู้
ความรู้ เป็นสภาวะทางสติปัญญาของมนุษย์ในการตีความสิ่งเร้าทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกด้วย ความเข้าใจสาระของเนื้อหา กระบวนการ และขั้นตอน อาจอยู่ในรูปของข้อมูลดิบหรือสารสนเทศระดับต่างๆ
6.4  การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
         การสร้างสารสนเทศได้ต้องอาศัยกระบวนการรวบรวมและประมวลผลโดยมีวิธีการจัดการดังนี้
         6.4.1 ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูล  เนื่องจากข้อมูลในโลกนี้มีมากมายหลายชนิดดังกล่าว จะหาข้อมูลที่ดีได้จะต้องมีการประมวลผลตามขั้นตอนต่างๆ ที่เหมาะสม ดังนี้
1)  การรวบรวมข้อมูล  หมายถึง  การเก็บข้อมูลจำนวนมากจากแหล่ง มาทำการเข้ารหัส  ในรูปที่เหมาะสมต่อการจัดเก็บ และการบันทึก ในสื่อที่สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้นานๆ เช่น จดบันทึกในกระดาษ รวบรวมแฟ้ม เก็บเข้าตู้  เป็นต้น
2)  การบำรุงรักษาและประมวลผลข้อมูล  เป็นกระบวนการเก็บรักษาข้อมูลไว้ใช้ได้ตลอดไป  ซึ่งอาจประกอบด้วยปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลา ทำการแยกประเภท  จัดเรียงข้อมูล และคำนวณหาข้อมูลใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
3)  การจัดการข้อมูล  คือ  การสร้างระบบจัดการข้อมูลจำนวนมาก  ให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างรวดเร็วทันเวลา ซึ่งประกอบด้วยการจัดเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทั้งแบบแฟ้มกระดาษหรือแฟ้มในคอมพิวเตอร์
       ปัจจุบันนี้มีซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมสำเร็จรูปสามารถจัดการข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกว่า ระบบจัดการฐานข้อมูล
4)  การควบคุมข้อมูล เป็นการป้องงกันรักษาข้อมูลที่จัดเก็บไว้แล้วให้ปลอดภัย  ไม่ให้ข้อมูลที่มีค่าถูกขโมยไปใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง
5)  การสร้างสารสนเทศ  เป็นการตีความหมายของข้อมูลที่ได้มาแล้ว ค้นหาความหมายหรือความสำคัญที่มีคุณค่าของข้อมูลที่ได้โดยการนำไปประมวลผลด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น การคำนวณ การเรียงข้อมูล การค้นหา และการแยกประเภท
6.4.2  วิธีการเก็บข้อมูล  ข้อมูลอาจเกินขึ้นได้เองหรือ เกิดจากการสร้าง การทดลอง และประมวลผลก็ได้ เมื่อต้องการได้ความรู้  หรือ  ต้องการทราบความหมายหรือคุณค่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  การสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือเป็นเจ้าของข้อมูล การนับจำนวน  หรือวัดขนาดด้วยตนเอง หรือโดยใช้อุปกรณ์อัตโนมัติ
        1.  การสำรวจด้วยแบบสอบถาม
        2.  การสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นเจ้าของข้อมูล
        3.  การนับจำนวนหรือวัดขนาดของตนเอง หรือโดยใช้อุปกรณ์อัตโนมัติ
        เครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสื่อสารข้อมูล   หมายถึง  คอมพิวเตอร์ที่เป็นเครื่องประมวลผลข้อมูล ซึ่งมีอยู่  2  ประเภทด้วยกัน  คือ
      1.  สถานีงาน  หมายถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน ณ จุดที่จัดไว้ใช้ให้ผู้ใช้มาใช้ร่วมกันหรือจัดไว้ให้ผู้ใช้มาใช้ร่วมกัน หรือจัดไว้ที่โต๊ะทำงานของผู้ใช้แต่ละคน  บางทีเรียกว่า  คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเรียกย่อๆ ว่า  PC  หมายถึงคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้ใช้ส่วนตัว มีหลายแบบ เช่น  คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ที่มีจอแสงคล้ายโทรทัศน์และเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใกล้เคียงกับหนังสือสามารถนำติดตัวไปใช้ในที่ใดก็ได้ เรียกว่า คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
2.  เครื่องบริการ  เป็นเครื่องขนาดใหญ่ที่ใช้ร่วมกันหลายคนเป็นเครื่องที่ใช้เก็บบานข้อมูลหรือโปรแกรมสำเร็จประยุกต์ จำนวนมากที่สามารถใช้ร่วมกันโดยการสั่งงานด้วยคอมพิวเตอร์ เครื่องบริการจะมีโปรแกรมควบคุมการทำงานซึ่งเรียกว่า  ระบบปฏิบัติการเครือข่าย  ที่มีระบบการทำงานและชื่อเครื่องหมายการค้าแตกต่างกัน ที่นิยมกันมากในขณะนี้ได้แก่ Linux Server, UNIX server, Windows NT server, Windows 2000 server
        เครือข่ายสื่อสารข้อมูล  คือ  เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกันให้สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันหรือแลกเปลี่ยนกันได้  โดยใช้สายสื่อสารข้อมูลที่ทำจากทองแดงหรือเส้นใยแก้วนำแสง นิยมแบ่งเครือข่ายตามขนาดพื้นที่ และจำนวนเครื่องที่ใช้งาน  ได้แก่
1.  แลน  คือ  เครือข่ายบริเวณเฉพาะที่ จำกัดเขตเฉพาะภายในบริเวณอาคารหรือกลุ่มอาคารที่อยู่ใกล้กัน  เนื่องจากข้อจำกัดของตัวกลางที่ใช้ส่งข้อมูล เช่น ภายในรั้วโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย เป็นต้น
2.  แวน  คือ  เครือข่ายบริเวณกว้าง ระยะทางมากกว่า 10 กิโลเมตร ขึ้นไปจนมากกว่าหลายพันกิโลเมตร  ปกติเชื่อมโยงด้วยระบบสื่อสารสาธารณะ เช่น สายโทรศัพท์ เครือข่ายเส้นใยแก้วนำแสง  หรือเครือข่ายสัญญาณดาวเทียม  เป็นต้น
3.  อินเตอร์เน็ต  คือเครือข่ายขนาดใหญ่  ประกอบด้วยเครือข่ายแวนจำนวนมาก ซึ่งครอบคลุมพื้นฐานที่กว้างไกลทั่วโลก

1 ความคิดเห็น: